e-NABLE Health วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคออย่างปลอดภัย

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคออย่างปลอดภัย

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคอ เป็นวิธีการเอาเสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมออกจากทางเดินหายใจส่วนบนของผู้ป่วยที่เจาะคอ โดยการใช้เครื่องดูดเสมหะ วิธีการนี้มักใช้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถไอหรือกลืนเสมหะได้เอง เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการไอรุนแรง ผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดลมอุดกั้น ผู้ป่วยที่มีภาวะอัมพาต เป็นต้น

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคออย่างปลอดภัยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ เครื่องดูดเสมหะ สายดูดเสมหะสำหรับท่อเจาะคอ ถุงมือสะอาด หน้ากากอนามัย สำลี และ แอลกอฮอล์
  2. ล้างมือให้สะอาด : ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
  3. ใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัย : สวมถุงมือและหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการสัมผัสกับสิ่งปนเปื้อน
  4. เปิดเครื่องดูดเสมหะ : เปิดเครื่องดูดเสมหะและปรับแรงดูดให้เหมาะสม
  5. ใส่สายดูดเสมหะเข้าไปในท่อเจาะคอ : ใส่สายดูดเสมหะเข้าไปในท่อเจาะคอ ลึกประมาณ 5-6 นิ้ว
  6. เปิดเครื่องดูดเสมหะและดูดเสมหะออกมา : เปิดเครื่องดูดเสมหะและดูดเสมหะออกมาอย่างระมัดระวัง ไม่ควรดูดเสมหะแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยบาดเจ็บ
  7. ปิดเครื่องดูดเสมหะและถอดสายดูดเสมหะออก : ปิดเครื่องดูดเสมหะและถอดสายดูดเสมหะออก
  8. เช็ดทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ท่อเจาะคอ : เช็ดทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ท่อเจาะคอด้วยสำลีชุบน้ำสะอาด

 

ข้อควรระวัง

 

  • ไม่ควรดูดเสมหะแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยบาดเจ็บ
  • ไม่ควรดูดเสมหะนานเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยหอบ
  • ควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ดูดเสมหะทุกครั้งหลังใช้งาน

 

คำแนะนำเพิ่มเติม

 

  • ควรดูดเสมหะเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น เมื่อผู้ป่วยมีอาการไอ หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงเสมหะ
  • ควรดูดเสมหะอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยบาดเจ็บ
  • ควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ดูดเสมหะทุกครั้งหลังใช้งาน

 

กรณีฉุกเฉิน

 

หากผู้ป่วยมีอาการต่อไปนี้ขณะดูดเสมหะ ให้หยุดดูดเสมหะทันทีและรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล

 

  • ผู้ป่วยหายใจลำบาก
  • ผู้ป่วยหน้าเขียว
  • ผู้ป่วยชัก
  • ผู้ป่วยหมดสติ

 

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคอเป็นวิธีการที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกขึ้นและบรรเทาอาการไอได้ การดูดเสมหะควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี

 

Related Post

ทำเลสิก

ก่อนทำเลสิกต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง ?ก่อนทำเลสิกต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง ?

เลสิก (LASIK) เป็นการผ่าตัดรักษาสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง โดยใช้เลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตา ทำให้แสงที่เข้ามากระทบตาหักเหเข้าสู่จอประสาทตาได้ชัดเจนขึ้น เลสิกเป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย เนื่องจากให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป 

ทดสอบการได้ยิน

ประโยชน์ของการทดสอบการได้ยินประโยชน์ของการทดสอบการได้ยิน

การได้ยินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการสื่อสารและการใช้ชีวิต ช่วยให้เราสามารถได้ยินเสียงรอบตัว เข้าใจภาษา สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างปกติ  การสูญเสียการได้ยินเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน สาเหตุของการสูญเสียการได้ยินมีหลายประการ เช่น เสียงดัง การติดเชื้อ การบาดเจ็บ โรคบางชนิด และอายุที่มากขึ้น การทดสอบการได้ยินเป็นการตรวจวัดระดับการได้ยิน เพื่อประเมินว่ามีปัญหาในการได้ยินหรือไม่ การทดสอบการได้ยินสามารถทำได้โดยแพทย์หรือนักโสตศอนาสิกแพทย์ ประโยชน์ของการทดสอบการได้ยิน การทดสอบการได้ยินมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้ ระดับความรุนแรงของการสูญเสียการได้ยินแบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยระดับ 0 หมายถึงการได้ยินปกติ ระดับ 1 หมายถึงการได้ยินลดลงเล็กน้อย

ยาแก้ท้องอืดเด็ก

ทำความรู้จักกับอาการท้องอืดในเด็กทำความรู้จักกับอาการท้องอืดในเด็ก

อาการท้องอืด เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย ที่จะมีอาการแน่น จุกเสียด ปวดท้อง อิ่มเร็ว ท้องแข็ง รวมถึงมีอาการเรอ ผายลมและท้องร้องโครกครากหลังรับประทานอาหาร บางรายอาจมีท้องผูกหรือท้องเสียร่วมด้วย อาการนี้ส่วนใหญ่มักเป็นผลจากมีแก๊สหรือลมอยู่ในทางเดินอาหารเป็นจำนวนมาก เราเองที่เผ็นผู้ใหญ่แล้วมีอาการเหล่านี้ยังรู้สึกทรมาณ แล้วเด็กๆ ล่ะ จะรู้สึกขนาดไหน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับอาการท้องอืดในเด็กและวิธีแก้ไขกันเลย อาการท้องอืดในเด็ก อาการท้องอืดของเด็กๆ  เป็นอาการที่พบได้บ่อยในเรื่องของโรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากปริมาณก๊าซในกระเพาะอาหารและลำไส้มากเกินไป  ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ  เช่น เรอบ่อย  อึดอัดแน่นท้องโดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ท้องโตเป็นพักๆ ผายลมบ่อย เป็นต้น โดยเด็กนั้นมีระบบทางเดินอาหารของเด็กยังบอบบาง เอนไซม์ในการย่อยโปรตีน และแลคโตสยังทำงานไม่สมบูรณ์